สิ่งที่ต้องทำเมื่อได้รับหมายศาลในคดีแพ่ง

บทความโดย นายนพรัตน์ ปรัชพันธ์


หมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง

เมื่อได้รับหมายเรียกคดีแพ่งพร้อมสำเนาคำฟ้อง จำเลยต้องดำเนินการดังนี้:

  1. ทำคำให้การเป็นหนังสือและยื่นต่อศาลภายใน 15 วัน
    • ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177
    • หากไม่ได้เซ็นรับหมาย ศาลจะปิดหมายไว้ที่ภูมิลำเนา ถือว่าได้รับหมายเมื่อพ้น 15 วันจากวันที่ปิดหมาย (รวมเป็น 30 วันในการยื่นคำให้การ)
  2. หากไม่ยื่นคำให้การตามกำหนด
    • ศาลจะพิจารณาคดีฝ่ายเดียว และอาจมีคำพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี
    • โจทก์สามารถดำเนินการบังคับคดีได้

ประเภทของหมายเรียกในคดีแพ่ง

  1. หมายเรียกคดีแพ่งสามัญ
    • ต้องยื่นคำให้การภายใน 15 วัน หรือ 30 วันหากเป็นกรณีปิดหมาย
  2. หมายเรียกคดีมโนสาเร่, คดีไม่มีข้อยุ่งยาก, คดีผู้บริโภค
    • ต้องมาศาลตามวันนัดเพื่อไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยาน
    • หากไม่ไปศาล อาจถูกพิจารณาขาดนัดและแพ้คดี

ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเมื่อได้รับหมายศาล

  1. ตรวจสอบหมายศาล
    • ตรวจสอบว่าศาลมีอำนาจพิจารณาคดี
    • ตรวจสอบวันที่นัดหมาย และชื่อคู่กรณี
  2. อ่านรายละเอียดในหมายศาล
    • ตรวจสอบข้อมูลคดี ข้อกล่าวหา และข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติ
  3. หากไม่สามารถไปตามวันนัดได้
    • สามารถยื่นคำร้องขอเลื่อนวันพิจารณา แต่ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม
  4. เตรียมเอกสารและหลักฐาน
    • เตรียมสัญญา ใบเสร็จ หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
    • จัดทำคำให้การหรือข้อโต้แย้ง
  5. การตอบหมายศาล
    • หากต้องยื่นคำให้การ ต้องดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด
  6. การไปศาล
    • ต้องไปศาลตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนด
    • แนะนำให้มีทนายความร่วมดำเนินคดี
  7. การพิจารณาคดี
    • คดีแพ่งอาจใช้เวลานาน ศาลอาจนัดพิจารณาหลายครั้ง
  8. การจัดการหากแพ้คดี
    • ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล
    • สามารถยื่นอุทธรณ์หากไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน
  9. การปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล
    • หากต้องชำระหนี้ ต้องดำเนินการตามที่ศาลกำหนด
    • หากไม่สามารถปฏิบัติตาม อาจถูกดำเนินการบังคับคดี
  10. ขอคำแนะนำจากทนายความ
  • ทนายความสามารถช่วยวิเคราะห์คดี ร่างเอกสาร และแนะนำแนวทางที่ดีที่สุด

ฟ้องแย้งคืออะไร?

ฟ้องแย้ง คือ การที่จำเลยฟ้องกลับโจทก์ในคดีเดียวกัน โดยไม่ต้องฟ้องคดีใหม่ เช่น คดีกู้ยืม ผิดสัญญา ละเมิด หรือมรดก หากจำเลยมีสิทธิเรียกร้องจากโจทก์ สามารถใช้สิทธิฟ้องแย้งได้

ประโยชน์ของการฟ้องแย้ง

  1. ไม่ต้องเสียเวลาไปฟ้องคดีใหม่
  2. ทำงานง่ายขึ้นในฐานะจำเลย
  3. ใช้เป็นข้อเจรจาต่อรองในการไกล่เกลี่ย

ขั้นตอนการฟ้องแย้ง

  1. การยื่นคำฟ้องแย้ง
    • ต้องยื่นพร้อมคำให้การของจำเลย
    • ระบุข้อเท็จจริงและหลักฐานที่สนับสนุนข้อเรียกร้อง
  2. การดำเนินการตามขั้นตอนการฟ้องแย้ง
    • ศาลจะพิจารณาทั้งคำฟ้องของโจทก์และคำฟ้องแย้งของจำเลย
  3. การยื่นคำร้องตอบโต้
    • โจทก์สามารถยื่นคำร้องปฏิเสธคำฟ้องแย้งได้
  4. การพิจารณาคดีและคำพิพากษา
    • ศาลจะพิจารณาคำฟ้องของทั้งสองฝ่าย และตัดสินตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย

สรุป

การได้รับหมายศาลในคดีแพ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง หากได้รับหมายศาล ควรรีบปรึกษาทนายความเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างถูกต้องและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต