การใช้สัญญาสำเร็จรูปหรือสัญญามาตรฐานที่มีให้เลือกใช้กันทั่วไปมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละบุคคลหรือธุรกิจ โดยในบางกรณีการเลือกใช้สัญญาสำเร็จรูปอาจดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น แต่ในบางกรณีก็อาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายในระยะยาว ซึ่งสามารถส่งผลกระทบทั้งในแง่ของการเงินและความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญาได้ ดังนั้น การเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการใช้สัญญาสำเร็จรูปและการจ้างทนายความเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อทำให้การเลือกใช้สัญญาเป็นไปตามความต้องการและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ข้อดีของการใช้สัญญาสำเร็จรูป

- ประหยัดค่าใช้จ่าย: การใช้สัญญาสำเร็จรูปมีต้นทุนต่ำกว่าการจ้างทนายความในการร่างหรือทบทวนสัญญา ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับบุคคลหรือธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัด
- สะดวกและรวดเร็ว: การดาวน์โหลดสัญญาสำเร็จรูปมักใช้เวลาน้อย ไม่ต้องรอเวลานานในการเตรียมสัญญา
- เข้าถึงง่าย: สัญญาสำเร็จรูปสามารถหาได้จากแหล่งต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์
ข้อเสียของการใช้สัญญาสำเร็จรูป
- ความไม่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะ: สัญญาสำเร็จรูปมักเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ไม่ได้ถูกปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะ
- ช่องโหว่ทางกฎหมาย: การใช้สัญญาสำเร็จรูปอาจมีช่องโหว่ทางกฎหมายที่อาจนำไปสู่การเข้าใจผิดหรือข้อพิพาทในภายหลัง
- ขาดความยืดหยุ่น: สัญญาสำเร็จรูปอาจไม่มีความยืดหยุ่นในการปรับแก้เงื่อนไขตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
- ขาดคำแนะนำทางกฎหมาย: การใช้สัญญาสำเร็จรูปไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ไม่เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง
ข้อดีของการจ้างทนายความช่วยร่างหรือทบทวนสัญญา

- ความถูกต้องและครอบคลุม: ทนายความสามารถร่างสัญญาที่มีความถูกต้องตามกฎหมาย และครอบคลุมถึงทุกแง่มุมของข้อตกลงที่เกิดขึ้น
- ปรับแต่งตามความต้องการ: ทนายความสามารถปรับเงื่อนไขในสัญญาให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละฝ่าย
- การให้คำแนะนำทางกฎหมาย: ทนายความสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ทำสัญญา
- ลดความเสี่ยงจากข้อพิพาท: การมีทนายความช่วยตรวจสอบและร่างสัญญาจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดข้อพิพาทในอนาคต
ข้อเสียของการจ้างทนายความ
- ค่าใช้จ่ายสูง: การจ้างทนายความมักมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการใช้สัญญาสำเร็จรูป
- ใช้เวลานานกว่า: การจ้างทนายความในการร่างหรือทบทวนสัญญาอาจใช้เวลานานกว่าการดาวน์โหลดสัญญาสำเร็จรูป
การลงทุนในการจ้างทนายความ: คุ้มค่าในระยะยาว

แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายความจะสูงขึ้นในระยะสั้น แต่การลงทุนในบริการทางกฎหมายนี้สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ เนื่องจากทนายความสามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดการฟ้องร้องหรือข้อพิพาทที่มีค่าใช้จ่ายสูงในอนาคต
การมีทนายความช่วยในการร่างหรือทบทวนสัญญายังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทั้งสองฝ่ายว่าเงื่อนไขที่ตกลงกันมีความยุติธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่ข้อตกลงจะกลายเป็นข้อพิพาทในอนาคต
สรุป
การใช้สัญญาสำเร็จรูปและการจ้างทนายความมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน การใช้สัญญาสำเร็จรูปอาจเหมาะสมในบางกรณีที่ไม่ซับซ้อนและไม่ต้องการคำแนะนำทางกฎหมายเพิ่มเติม แต่การจ้างทนายความจะช่วยให้สัญญามีความครอบคลุม ถูกต้องตามกฎหมาย และเหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในระยะสั้น แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการปกป้องผลประโยชน์ในระยะยาว
เขียนโดย:
นายกฤษฏิ์ณัฐ พูลโต