การคืนรถให้แก่เจ้าหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อโดยไม่เสียค่าส่วนต่าง

1. หลักการของสัญญาเช่าซื้อและการคืนรถ

สัญญาเช่าซื้อเป็นเอกเทศสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ โดยมีสาระสำคัญคือ ผู้เช่าซื้อต้องผ่อนชำระค่างวดตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ หากผิดสัญญา เช่น ค้างชำระค่างวดหลายงวด ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิยึดรถคืนและบอกเลิกสัญญา

ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อไม่สามารถผ่อนชำระได้อีกต่อไปและต้องการคืนรถ การคืนรถโดยสมัครใจโดยที่ยังไม่มีการผิดนัดชำระอาจส่งผลให้ไม่ต้องรับผิดชอบค่าส่วนต่างที่เกิดจากการขายทอดตลาดรถคันดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องพิจารณาตามกฎหมายและแนวทางของศาลฎีกา


2. ข้อพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 573 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

  1. ผู้เช่าซื้อมีสิทธิเลิกสัญญาได้ตลอดเวลา แม้ในสัญญาจะไม่มีระบุไว้
  2. การเลิกสัญญาต้องมีการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนแก่เจ้าของ (ไฟแนนซ์) โดยผู้เช่าซื้อต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการส่งมอบเอง
  3. หากผู้เช่าซื้อเพียงแจ้งบอกเลิกสัญญาแต่ไม่ได้ส่งมอบรถคืน สัญญายังไม่ถือว่ายุติ

3. กรณีที่ไม่ต้องรับผิดชอบค่าส่วนต่าง

หากผู้เช่าซื้อส่งมอบรถคืนก่อนที่ตนเองจะตกเป็นผู้ผิดสัญญา เช่น

  • ผ่อนชำระไม่ไหวและคืนรถก่อนครบกำหนดค้างชำระ 3 งวด
  • คืนรถโดยไม่มีค่าติดตามทวงถาม
  • ไฟแนนซ์ยอมรับคืนรถโดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องค่าส่วนต่าง

ในกรณีดังกล่าว หากไฟแนนซ์ขายรถทอดตลาดแล้วได้ราคาต่ำกว่ายอดหนี้คงเหลือ ผู้เช่าซื้อไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อส่วนต่างดังกล่าว เนื่องจากสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงโดยสมัครใจทั้งสองฝ่าย


4. ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5239/2561

  • ผู้เช่าซื้อ (จำเลยที่ 1) คืนรถให้ไฟแนนซ์โดยยังไม่ผิดนัดชำระ
  • ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันโดยผู้เช่าซื้อไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิเรียกค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาด
  • ผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบค่าส่วนต่าง

5. วิธีการคืนรถให้ไฟแนนซ์

กรณีไฟแนนซ์ยอมรับคืนรถ

  1. ทำหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและแจ้งไฟแนนซ์
  2. ตรวจสภาพรถก่อนส่งมอบ และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
  3. เจรจาขอให้ไฟแนนซ์ออกหลักฐานการคืนรถ
  4. ตรวจสอบเอกสารให้รอบคอบก่อนเซ็น โดยหลีกเลี่ยงข้อความที่ระบุให้ต้องรับผิดชอบค่าส่วนต่าง

กรณีไฟแนนซ์ปฏิเสธไม่รับรถคืน

  1. ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
  2. นำรถไปวางทรัพย์ที่กรมบังคับคดี
  3. แจ้งไฟแนนซ์ให้มารับรถคืนจากกรมบังคับคดี

6. ข้อควรระวัง

  • ควรปรึกษาทนายก่อนทำเรื่องคืนรถ
  • หากไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง อาจต้องต่อสู้คดีโดยใช้พยานหลักฐาน
  • หากเอกสารไม่สมบูรณ์หรือหาย อาจเป็นเหตุให้แพ้คดี