การนอกใจและผลกระทบต่อชีวิตคู่
การนอกใจเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาครอบครัวร้าวฉาน บางคู่สามารถให้อภัยกันได้ แต่บางคู่กลับลงเอยด้วยการทะเลาะวิวาท หรือร้ายแรงถึงขั้นใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม กฎหมายไทยได้กำหนดแนวทางการแก้ปัญหาในกรณีที่การนอกใจนำไปสู่การฟ้องหย่า
วิธีการฟ้องหย่าตามกฎหมายไทย

หากคู่สมรสต้องการหย่ากัน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
- การหย่าโดยความยินยอม – คู่สมรสสามารถตกลงกันและไปจดทะเบียนหย่าที่สำนักงานเขตหรืออำเภอได้ โดยต้องมีพยานและทำตามข้อกำหนดของกฎหมาย
- การฟ้องหย่า – หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอม กฎหมายอนุญาตให้ยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว โดยต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนตามมาตรา 1516 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น
- คู่สมรสมีชู้หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
- ไม่อุปการะเลี้ยงดู
- มีปัญหาสุขภาพจิตหรือโรคร้ายแรงที่อยู่ร่วมกันไม่ได้
- ความขัดแย้งรุนแรงจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้
ฟ้องชู้แต่ไม่หย่า ทำได้หรือไม่?

กฎหมายอนุญาตให้ฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ ตามมาตรา 1523 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แม้ว่าผู้ฟ้องจะไม่ต้องการหย่าก็ตาม ซึ่งหมายความว่า คู่สมรสสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลที่มีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวกับสามีหรือภรรยาของตน โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่า
กฎหมายสมรสเท่าเทียมกับการฟ้องหย่า

จากการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ได้รับรองสิทธิของคู่สมรสเพศเดียวกัน ซึ่งหมายความว่า การฟ้องหย่าและฟ้องชู้สามารถทำได้ตามหลักการเดียวกับคู่สมรสต่างเพศ
สรุป
- การหย่า มี 2 วิธี คือ หย่าโดยยินยอมและฟ้องหย่า
- การฟ้องชู้ สามารถทำได้โดยไม่ต้องหย่า เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทน
- กฎหมายสมรสเท่าเทียม ให้สิทธิในการฟ้องหย่าและฟ้องชู้แก่คู่รักทุกเพศ